วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

การใช้ Verb to be

                
การใช้ Verb to be
            
               การพูดและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Verb to be (is am are) เป็นการเรียนรู้การสร้างประโยคพื้นฐาน นอกจากผู้เรียนได้เรียนรู้คำศัพท์ และโครงสร้างของประโยคแล้วแล้ว ยังได้ฝึก ทักษะการพูด อ่าน เขียน และสามารถนำความรู้ไปใช้ศึกษาต่อ ในระดับชั้นที่สูงขึ้น และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ 

1. V.to be มี 9 รูป คือ is, am, are, was, were, been, being, be, to be
2. V.to be มีความหมายว่า เป็น, อยู่, คือ, กำลัง, ถูกทำ, เป็นส่วนสมบูรณ์
3. ประธานเป็นเอกพจน์ใช้ is พหูพจน์ใช้  are ยกเว้น I ใช้ am , You ใช้ are เสมอ
4. ทำเป็นปฏิเสธได้โดยการเติม not หลัง is, am, are, was, were เท่านั้น
5. ทำเป็นคำถามได้โดย นำ is, am, are, was, were กลับไปไว้หน้าประโยค

หลักการใช้ Verb to be 

1.  ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  เป็น  อยู่  คือ
     - He is a doctor. (เขาเป็นหมอ)
     - They are here. (พวกเขาอยู่ที่นี่)
     - She is John’s mother. (หล่อนคือแม่ของจอห์น)
2. ใช้กับ Nouns และ Pronouns เช่น
     - Jack and Jill are cousins. (แจ๊คและจิลเป็นลูกพี่ลูกน้อง)
     - That puppy is Mam’s. (ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นของแหม่ม)
     - They are Thai boxers. (เขาทั้งหลายเป็นนักมวยไทย)
3. ใช้กับ Adjectives และ Adverbs เช่น
     - My uncle is a kind man. (ลุงของฉันเป็นคนใจดี)
     - People in the hall are friendly. (ผู้คนในห้องประชุมเป็นมิตรกัน)
     - The tortoise is walking slowly. (เต่าเดินอย่างเชื่องช้า)
4. ใช้กับ Prepositions เช่น
     - The red bag is on the floor. (กระเป๋าสีแดงอยู่บนพื้น)
     - The patients are in the hospital. (คนไข้อยู่ในโรงพยาบาล)
     - The cat is under the tree. (แมวอยู่ใต้ต้นไม้)
5. ใช้กับประโยค Continuous Tense เช่น
     - They are riding their bicycles. (เขาทั้งหลายกำลังขี่จักรยานของเขา)
     - Teacher is writhing on the board. (ครูกำลังเขียนบนกระดาน)
     - She is playing basketball. (หล่อนกำลังเล่นบาสเกตบอล)


 หลักการใช้ Verb to be กับประธานในประโยค
1.  ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 ซึ่งได้แก่ He She It หรือ ชื่อคนคนเดียว 
     สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง Verb to be ที่ใช้  คือ is เช่น
     - He  is  a  teacher.            - Sam  is  a  singer
     - She  is  in  the  room.      - My  father   is  sleeping.
     - It  is  a  dog.                  - The  pencil  is  on  the  table
 2.   ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1  ซึ่งได้แก่ I  Verb to be  ที่ใช้  คือ  am
     - I  am  a  student.           - I  am  under  the  table.
3.  ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ  ซึ่งได้แก่  We  You  They หรือ ชื่อคนหลายคน
     สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง Verb to be ที่ใช้ คือ are เช่น
     - We  are  nurses.             - My  father  and  I  are  in  the  room.
     - They  are  policemen.      - Da and  Dan  are  under  the  tree.
     - You  are  very  good.      - The  players  are  in  the  playground.

การสร้างประโยคที่มี Verb to be ให้เป็นประโยคปฏิเสธ

    เติม  not  ลงไปในตำแหน่งที่เรียงต่อจาก Verb to  be หลัง  is  am are เช่น
    - He  is  not  in  the  room.  - I  am  not  a  child.
    - They  are  not  teachers.                  
    รูปย่อของ ปฏิเสธ Verb  to  be
        is  not  ย่อเป็น  isn’t     
        am  not  จะไม่ใช้รูปย่อ          
        are  not  ย่อเป็น  aren’t

การสร้างประโยคที่มี Verb to be ให้เป็นประโยคคำถาม Yes/No Question

   เอา Verb  to  be  มาวางหน้าประโยค  และเอาประธานของประโยคมาวาง
   เรียงต่อจากVerb  to  be  และต้องใส่เครื่องหมายคำถามหลังจบประโยค เช่น
    - He  is  in  the  room.     เปลี่ยนเป็น   Is  he  in  the  room ?
    - He  is  in  the  room.     เปลี่ยนเป็น   Is  he  in  the  room ?
    - They  are  soldiers.       เปลี่ยนเป็น   Are  they  soldiers?
    - I  am  a  boy.               เปลี่ยนเป็น   Am  I  a  boy ?

การตอบคำถามในคำถาม Yes No Question  ที่มี Verb to be

    การตอบคำถามในคำถาม Yes No Question  ที่มี Verb to be  เช่น
    - Is she very clever?          Yes, she is. / No, she isn’t.
    - Are you Thai?                 Yes, I am. / No, I’m not.
    - Is it hot?                        Yes, it is. / No, it isn’t.
    - Am I late?                      Yes, you are. / No, you aren’t.

สรุปการใช้ Verb to be

     1.  Subject + be + (AoF) + (AoD) + Adjectives
     2.  Subject + be + (AoF) + (AoD) + (Adj) + Nouns
     3.  Subject + be + (AoF) + Prepositional Phrases
     4.  Subject + be + Ving
     5.  Subject + be + (AoF) + V3
          AoF = Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes…
          AoD = Adverbs of Degree: very, too, quite, completely…

หมายเหตุ : สำหรับ AoF หรือ AoD เราจะใส่หรือไม่ก็ได้แล้วแต่ความหมายที่เรา ต้องการจะสื่อสาร